ปัจจุบันการ ‘Tracking Data’ เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำการตลาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเปลี่ยนมาใช้ Google Analytics 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่จะเก็บข้อมูลทุกอย่างเป็น ‘Events’ แทบทั้งหมด อย่างไรก็ตามเราก็มักยังคงใช้งานได้ไม่เต็มที่ และโดยมากจะใช้เพื่อดูว่าคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ของเรานั้นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่แล้ว โดยอาจจะมองข้ามสิ่งที่เรียกว่า ‘Conversion Events’ ดังนั้นในวันนี้ Digi Era จึงถือโอกาสที่จะอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจถึงค่านี้ รวมไปจนถึงการเซ็ตติ้ง และคุณควรที่จะนับแบบไหน เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
เลือกอ่านเฉพาะบางหัวข้อที่คุณต้องการ
Conversion Event คืออะไร?
Conversion Event เป็นอีเว้นท์หนึ่งที่อยู่ใน Google Analytics 4 แต่อีเว้นท์นี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใจได้ในทันทีว่า เมื่อยูเซอร์เข้ามายังเว็บไซต์ของเรานั้น ได้ทำมันหรือไม่ อาทิเช่น สมมติว่าเว็บไซต์ผมเป็นอีคอมเมิร์ชตัว ‘Conversion Event’ ก็จะเป็นตัวช่วยวัดผลว่า เมื่อมีคนเข้ามาแล้วพวกเขาได้เลือกซื้อสินค้าที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราบ้างหรือไม่ ซึ่งในรีพอร์ทจะไม่ได้เรียกว่า ‘Conversion Event’ แต่เราจะรู้กันในอีกชื่อที่เรียกว่า ‘Purchase’ นั่นเอง
เช่นเดียวกันถ้าหากเว็บไซต์ของเราให้บริการแบบอื่นๆ และมีปุ่มให้คลิกแอดไลน์ เราก็อาจจะใช้ปุ่มแอดไลน์เป็น ‘Conversion Event’ ได้เช่นเดียวกัน โดยจะใช้ชื่อว่า ‘Add Line’ เป้นต้น ดังนั้นตัวอีเว้นท์นี้จะเป็นชื่อกลางเพื่อใช้เป็นตัวแทนบอกว่าเมื่อมีคนเข้ามายังเว็บไซต์ของเราแล้ว ได้ทำให้เกิดคอนเวอร์ชันเกิดขึ้นนั่นเอง แต่คอนเวอร์ชั่นที่ว่านั้นจะเป็นอะไร ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นๆ ว่าทำเกี่ยวกับอะไร
Conversion Events ติดตั้งอย่างไร?
สำหรับการตั้งค่า ‘Conversion Events’ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยากเท่าไหร่นัก หากแต่ว่ามันคือการปรับเปลี่ยนจาก ‘Events’ ที่เราได้ตั้งค่าให้มาเป็น ‘Conversion Event’ แทน เท่านั้น จะไม่เหมือนกับ Universal Analytics สามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ เพียงทำตามจากภาพด้านล่าง
Predefine conversion events
อย่างไรก็ตามในการตั้ง ‘Conversion Events’ บน ‘Google Analytics 4’ จำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในเรื่องของการตั้งชื่อ เพราะระบบได้ตั้งชื่อล่วงหน้ามาให้แล้วประมาณหนึ่ง กล่าวคือ ถ้าเราต้องการจะใช้ชื่อเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องตั้งให้เหมือนกับที่ทางระบบให้มาในข้างต้นนั่นเอง แล้วชื่อที่ว่านั้นมีอะไรบ้างสามารถดูได้จากลิสต์ด้านล่างนี้
สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บ และแอปพลิเคชัน
- Purchases
สามารถใช้ได้เฉพาะแอปพลิเคชันเท่านั้น
- First_Open
- In_App_Purchase
- App_store_subscription_convert
- App_store_subscription_renew
Conversion Events นับอย่างไร?
เมื่อเราได้เปลี่ยนมาใช้ Google Analytics 4 แล้วได้ลองใช้ ‘Conversion Event’ มาได้สักระยะหนึ่ง อาจจะสังเกตได้ว่าทำไมของ GA4 ถึงมีตัวเลขไม่ใกล้เคียงกับ Universal Analytics เลย เพราะทั้งสองระบบมีวิธีการนับที่แตกต่างกันนั่นเอง ซึ่งในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา Google เองก็ได้ออกฟังก์ชั่นใหม่ออกมา เพื่อรองรับของการเปลี่ยนผ่านจาก UA ไป GA4 โดยเรียกว่า ‘Conversion Couting Method’ กล่าวคือระบบจะมีการนับคอนเวอร์ชัน ด้วยกันสองแบบประกอบไปด้วย Once per event หรือ Once per session
Once per event (Google แนะนำให้ใช้)
ง่ายๆ เลยก็คือระบบจะนับในทุก ‘Conversion Events’ ที่เกิดขึ้น เช่น นาย X เข้าเว็บไซต์มาแล้วเกิด ‘Conversion’ เป็นจำนวน 5 ครั้ง ระบบก็จะนับ แล้วให้เครดิตกับนาย X ว่ามีคอนเวอร์ชันเกิดขึ้นมา 5 ครั้งนั่นเอง เหตุผลที่ Google ได้เพิ่มวิธีการนับแบบนี้เข้ามาเพราะอาจจะมองว่าใน ‘Users’ ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เป็น ‘Multiple conversion’ นั่นเอง ซึ่งล้วนเป็นการตั้งค่าจากหลายๆ ‘Event’ ที่เกิดขึ้น
สมมติว่าผมมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชเว็บหนึ่งในระบบก็จะต้องมีการตั้งค่าเหล่านี้เป้นเบื้องต้นอยู่แล้วประกอบไปด้วย ‘Add_to_cart’, ‘view_items’, ‘select_item’, ‘signup’ และ ‘purchase’ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นอีเว้นท์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จาก 1 user ที่เข้ามาในเว็บไซต์ของเรา และในอีเว้นท์เหล่านี้ถ้าผมเซ็ตว่าให้เป็น ‘conversion event’ ทั้งหมด ดังนั้นถ้านาย X เข้ามาในเว็บไซต์นี้แล้วทำทั้งหมด จะเท่ากับว่า 5 คอนเวอรชัน อย่างไรก็ตามในทางกลับกันถ้าเป็นเว็บไซต์อย่าง ประกันชีวิต ที่ส่วนมากจะเก็บดาต้าเป็นรายบุคคล (leads) แล้วเราก็มักจะมีเพียงแค่ 1 conversion event ดังนั้นถ้านาย X เข้าเว็บขายประกันส่ง leads ให้ 5 ครั้ง ระบบจะนับ 5 หรือเพียงแค่ 1 แต่ถ้าตามที่บอกว่า ‘Once Per event’ ก็น่าจะนับเพียงแค่ครั้งเดียว
Once per session
ในทางกลับกันวิธีนี้จะเหมือนกับ Universal Analytics ที่ระบบจะให้เครดิตเพียงแค่ 1 เท่านั้น จากตัวอย่างในข้อแรกที่บอกว่า นาย X ได้สร้าง 5 คอนเวอร์ชั่นนั้น ถ้านับแบบนี้จะได้เพียงแค่ 1 เท่านั้น เพราะระบบจะมองว่ามาจาก ‘Users’ คนเดียวกันนั่นเอง อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ทาง Google ออกมาเพื่อใช้ร่วมกับแอคเค้าท์ Google Analytics 4 ที่ได้ใช้ฟังก์ชั่น ‘Migration Tools’ เพื่อเปลี่ยนจาก UA มาเป็น GA4 นั่นเอง เพื่อต้องการไม่ให้การนับ และเลขนั้นมีความแตกต่างมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตามสำหรับ Google Analytics 4 ที่สร้างขึ้นมาเอง โดยไม่ได้ใช้วิธีการ Migration ระบบจะตั้งค่าให้เป็น ‘Once per event’ ก่อนเสมอ และสำหรับ ‘Once per sessions’ จะเป็นการตั้งค่าเบื้องต้นสำหรับแอคเค้าท์ของ GA4 ที่ได้ใช้วิธีการแบบ Migration เพียงเท่านั้น แต่เราสามารถเปลี่ยนได้ไม่ว่าจะเปลี่ยนจาก Per Event ไปเป็น Session หรือเปลี่ยนจาก Per Session ไปเป็น Event เพียงแค่ทำตามภาพด้านล่าง
ข้อสรุป
สำหรับ ‘Conversion Event’ แม้ว่าจะเป็นเพียงเมทริกซ์หนึ่งที่อยู่บน Google Analytics 4 หากแต่ว่าเป็นเมทริกซ์สำคัญที่จะทำให้คุณเข้าใจได้ว่า ‘Users’ ที่เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรานั้น ได้สร้างคอนเวอร์ชันบ้างหรือไม่ แต่เมทริกซ์นี้จะใช้ได้สำหรับ Google Analytics 4 เพียงเท่านั้น หากแต่ว่าในโลกของดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ไม่ได้มีเพียงแค่คอนเวอร์ชันบนนี้ หากแต่ว่ายังมีอีกหลากหลายที่ ที่เราต้องให้ความสำคัญ ไม่แพ้กัน ขอแนะนำให้ลองอ่าน ‘Conversion คืออะไร’ บทความที่เขียนมาก่อนหน้านี้ ที่จะอธิบายว่า คอนเวอร์ชันที่เราเข้าใจนั้นคืออะไร และใช้ยังไง สุดท้ายระหว่าง ‘Once Per Event’ กับ ‘Once Per Session’ เราควรเลือกวิธีไหนในการนับ ทางผู้เขียนเห็นว่าแบบที่ Google Recommended หรือแนะนำมาในเบื้องต้นของ ‘Once Per Event’ นั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ในการนับคอนเวอร์ชัน
ขายของ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ migration จาก ua ไปเป็น ga4 สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับ หรือต้องการให้จัดคลาสสอน GA4 แบบเฉพาะบริษัทก็สามารถติดต่อได้ครับ
Reference: https://support.google.com/google-ads/answer/3438531?hl=en