คอร์สเรียน Google Ads

คอร์สเรียน Google Ads ของ Digi Era ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริงกว่า 10 ปี มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจการวางแผนคำค้นหา พัฒนาแคมเปญอย่างมีเป้าหมาย และวัดผลโฆษณาได้อย่างมืออาชีพ เพื่อนำไปต่อยอดใช้งานได้จริงในทุกระดับธุรกิจ
apiwat chaleamjit - conicle

คอร์สที่สอนโดย Performance MKT

Digi Era ไม่ได้สอนเพียงแค่การใช้ Google Ads แต่เราจะสอนให้คุณวางแผนคำค้นหา และวิเคราะห์แคมเปญได้จริง รวมไปจนถึงการปรับปรุงแคมเปญให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด คอร์สนี้ออกแบบมาให้คุณได้ทดลองลงมือทำจริงในทุกขั้นตอน พร้อมแนวทางในการวัดผลแบบมืออาชีพ ที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็น SME หรือ องค์กรใหญ่

คุณจะได้เรียนรู้อะไรบ้างจากคอร์สนี้

คอร์สเรียน Google Ads digi era ภาพที่ 1

เทคนิคการวางแผนคำค้นหาแบบมืออาชีพ

เราไม่ได้สอนแค่วิธีการใช้ Keyword Planner แต่จะสอนให้คุณเข้าใจหลักการเลือกคำค้นหาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ใช้งบได้อย่างคุ้มค่า เพื่อให้เกิดยอดขายในระยะยาว

เทคนิคการใช้ Negative Keywords

สำหรับคลาสนี้เราจะสอนให้คุณเข้าใจว่า Negative Keywords คืออะไร และจะวางแผนอย่างไรเพื่อช่วยกรองการคลิกที่ไม่เกี่ยวข้อง ลดค่าโฆษณาให้คุ้มค่ามากที่สุด

สอนการวางแผนคำค้นหาแบบ Single Theme

สอนวิธีการวางโครงสร้างแคมเปญแบบ Single Theme พร้อมเทคนิคในการจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดอย่างมืออาชีพ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เสริม Quality Score / Ad Rank เพิ่มโอกาสให้ลดต้นทุนได้อย่างคุ้มค่า

เทคนิคการวัดผลด้วยการใช้งาน Google Analytics 4

เรียนรู้วิธีวัดผลแคมเปญแบบเข้าใจง่าย ด้วยการตั้งค่า Conversion และใช้งานร่วมกับ Google Analytics 4 อย่างมืออาชีพ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่วัดได้จริง

คอร์สเรียน Google Ads digi era ภาพที่ 3

คอร์สเรียน Google Ads ของเราสอนอะไรบ้าง?

คอร์สนี้ออกแบบให้เรียนรู้ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการลงมือทำจริง รวมไปจนถึงการวัดผล พร้อมแนะนำเครื่องมือ และเทคนิคที่ใช้ได้จริงกับทุกประเภทธุรกิจ

Module 1: ปูพื้นฐาน และทำความเข้าใจ Google Ads (Fundamentals)

สอนเข้าใจระบบ Google Ads ตั้งแต่ต้น เพื่อวางรากฐานที่แข็งแรงในการสร้างแคมเปญให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยใน Module นี้ คุณจะได้เรียนรู้:

  • Google Ads คืออะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร
  • วิธีการสมัครเพื่อใช้งาน Google Ads
  • ความแตกต่างระหว่าง Search Network และ Display Network
  • วิธีวางแผนโครงสร้างแคมเปญ (Campaign Structure)
  • ข้อควรรู้ที่นักการตลาดมือใหม่มักพลาด และวิธีหลีกเลี่ยงอย่างมืออาชีพ

Module 2: เจาะลึก Google Search Marketing

เรียนรู้ และเข้าใจระบบ Search Engine Marketing (SEM) อย่างรอบด้าน ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานไปจนถึงการวางโครงสร้างแคมเปญจริง เพื่อช่วยให้สร้างแคมเปญโฆษณาที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการค้นหาที่ตรงกับเป้าหมาย สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ใน Module นี้ได้แก่

  • Search Engine Marketing (SEM) คืออะไร และทำงานอย่างไร
  • ความแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับธุรกิจ
  • เปรียบเทียบ Smart Campaign และ Expert Mode แบบเข้าใจง่าย
  • วิธีตั้งค่าแคมเปญ Search Ads อย่างเป็นระบบ
  • เข้าใจการทำงานของ Dynamic Search Ads และแนวทางการใช้งานที่เหมาะสม
  • เทคนิคการทำ Remarketing ผ่าน Search Ads เพื่อดึงกลับลูกค้าที่เคยแสดงความสนใจ

Module 3: วางแผนเลือกคำค้นหา (Keyword Planning)

เรียนรู้วิธีจัดการคีย์เวิร์ดอย่างมืออาชีพ เพื่อให้แคมเปญเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากที่สุด พร้อมลดการสูญเสียงบจากคำค้นที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากงบโฆษณา สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ใน Module นี้ ได้แก่:

  • การวางแผนคีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับเป้าหมาย (Keyword Intention)
  • วิธีใช้งาน Google Keyword Planner เพื่อหาโอกาสทางการตลาด
  • หลักการวางโครงสร้างแคมเปญแบบ Single Theme Per Ad Group
  • การอ่านและวิเคราะห์ Search Term Report เพื่อปรับปรุงแคมเปญ
  • การค้นหาและใช้ Negative Keywords เพื่อกรองคลิกที่ไม่จำเป็น
  • เข้าใจประเภทของ Keyword Match Type และวิธีเลือกใช้อย่างเหมาะสม

Module 4: วิธีการเขียนคำโฆษณาให้เกิดการคลิก (Ads Text Creation)

เรียนรู้ และทำความเข้าใจหลักการเขียนข้อความโฆษณา (Ads Text) เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้การคลิก พร้อมลงมือฝึกเขียนจริง เพื่อให้โฆษณาคุณโดดเด่นในหน้าผลการค้นหา โดยสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ใน Module นี้่ได้แก่

  • หลักการเขียน Ads Text ให้สอดคล้องกับ Keywords Intent
  • หลักในการเขียนโฆษณาให้น่าสนใจด้วย Unique Selling Point เพื่อเพิ่ม CTR
  • สอนการปรับแต่ง Responsive Search Ads (RSA) ให้ได้ Ads Strength ที่สูงขึ้น
  • แนวทางในการสร้าง และจัดการ Ads Extensions ในแบบต่างๆ เพื่อเสริม Conversions และ CTR

ค่าคอร์สเรียน Google Ads

เรียนแบบส่วนตัว

สำหรับเจ้าของธุรกิจ
THB 9,900
ต่อคน
  • เลือกเรียนได้แบบ Online
  • ระยะเวลาเรียน 1 วันเต็ม / 8 ชั่วโมง
  • บันทึก Video ดูย้อนหลังได้
  • สอนให้ทำ Google Ads เองเป็น
  • เรียนจบสอบถามได้ต่อในกลุ่ม

เรียนเป็นกลุ่ม 5 - 10 คน

จองครบเปิดสอนทันที
THB 7,900
ต่อคน
  • คอร์สสอนสดพร้อม Workshop
  • ระยะเวลาเรียน 1 วันเต็ม / 8 ชั่วโมง
  • เรียนที่ตึก True Digital Park
  • เลือกเรียนเป็นกลุ่ม Private ได้
  • เรียนจบสอบถามได้ต่อในกลุ่ม

สำหรับองค์กร

ขึ้นต่ำ 5 คนขึ้นไป
THB 6,900
ต่อคน
  • สอนภายในองค์กรเท่านั้น
  • ระยะเวลาเรียน 1 วันเต็ม / 8 ชั่วโมง
  • รับขั้นต่ำมากกว่า 5 คนขึ้นไป
  • บริการให้คำปรึกษาพิเศษ
  • สอบถามเพิ่มเติมผ่านกลุ่มตัวเอง

รู้จักกับผู้สอน

อภิวัฒน์ เฉลิมจิตร์ (จารย์ X)

Founder of Digi Era

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Google Analytics และ Google Tag Manager มากว่า 10 ปี มีประสบการณ์ในการวางแผนและติดตั้ง Tracking ให้กับหลากหลายธุรกิจ ครอบคลุมอุตสาหกรรม อีคอมเมิร์ซ, ประกันภัย, การศึกษา และอื่นๆ

คอร์สนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “รากฐานสำคัญ” ของการทำการตลาดที่ยั่งยืน
เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เริ่มต้น และผู้ที่ต้องการเข้าใจการวัดผลแบบเชิงลึก
คุณจะได้เรียนรู้การใช้งาน Google Analytics 4 อย่างเป็นระบบ
ตั้งแต่พื้นฐานการติดตั้ง จนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจริง เพื่อใช้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างแม่นยำ

apiwat chaleamjit - conicle
คอร์สเรียน Google Ads digi era ภาพที่ 1

Digi Era ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรให้กับบริษัทชั้นนำ

Digi Era ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรระดับประเทศอย่าง บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) ในการถ่ายทอด ความรู้ด้าน Google Analytics 4 และวางระบบ Tracking ผ่าน Google Tag Manager ให้กับทีมการตลาดและทีมไอที เพื่อยกระดับการวัดผลแคมเปญ และเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานจริง

คลาสสอน GA4

Digi Era x แบรนด์ชั้นนำ

คำถามที่พบบ่อย

Google Ads หรือเรียกว่า Google AdWords เป็นแพลตฟอร์มที่ให้นักการตลาด หรือ เจ้าของธุรกิจได้เข้าไปใช้บริการในการเลือกซื้อโฆษณาผ่าน Google โดยที่ตัวโฆษณาจะสามารถกระจายไปได้หลากหลายช่องทาง หรือเรียกกันว่า ‘Google Network’ ประกอบไปด้วย Paid Search (SEM) – ระบบการทำโฆษณาด้วยการใช้ Keywords เป็นกลุ่มเป้าหมาย มองหาคนที่หาคีย์เวิร์ดแบบต่างๆ, Google Display Network (GDN) – ระบบที่จะให้เรากระจายแบนเนอร์ออกไปยังเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ล, Shopping Ads – การทำโฆษณาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสั่งสินค้าได้ผ่านเว็บไซต์ ทั้งหมดล้วนเป็นรูปแบบตัวอย่างเบื้องต้น แต่ด้วยระบบของ Google ยังทำอะไรที่ได้มากกว่านั้น

Google Ads มีหลักในการคิดค่าโฆษณาเป็นรูปแบบของการประมูล (Bidding) แต่ไม่ได้หมายถึงยอดเงินประมูลสูงที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะ Google ยังมองถึงเรื่องของความสำคัญด้านคุณภาพอีกด้วย โดยที่ระบบจะคิดเงินเมื่อมีคนคลิกไปที่โฆษณาของคุณ เราก็มักจะเรียกกันว่า Cost Per Click – CPC / Pay Per Click – PPC รวมทั้งระบบการทำงานของ Google ให้สิทธิ์เราเลือกตั้งค่างบประมาณได้แบบรายวันเพียงเท่านั้น ไม่สามารถตั้งแบบรายเดือนได้ และอัตราค่าคลิกจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดนั้นๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะกำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่แน่นอนได้ จนกว่าเราจะรู้ว่าต้องการที่จะเลือกเล่นใน Keyword ไหน ซึ่งก็พอที่จะทำให้เราประมาณการได้ว่าควรใช้งบประมาณเท่าไหร่ ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม Cost Per Click – CPC เป็นเพียงแค่เทคนิคการประมูลที่อยู่บนระบบที่เรียกว่า ‘SEM – Search Engine Marketing’ เท่านั้น แต่ในทางกลับกันถ้าหากต้องการลงบนระบบอื่นๆ อาทิเช่น Google Display Network (GDN) ระบบจะเปลี่ยนการประมูลจาก CPC มาเป็น vCPM แทน ซึ่งจะต่างจากแบบแรกที่คิดเงินเมื่อมีคนคลิกโฆษณา มาเป็นคิดเงินเมื่อมีคนเห็นโฆษณาจริงๆ มากกว่า 1,000 ครั้ง ขึ้นไป

การจัดอันดับของโฆษณาบน Google Ads จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อแล้วอาจจะไม่สามารถนำขึ้นมาได้เลยตั้งแต่ในวันแรก แต่ว่าด้วยรูปแบบของแคมเปญที่ทางเราได้สร้างขึ้น จะสามารถการันตีได้ว่าอันดับนั้นจะอยู่ได้ในอันดับต้นๆ เสมอ

ทุกธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย หรือลูกค้า สามารถเลือกใช้โฆษณาบน Google Ads ได้เสมอ ขอเพียงแค่ธุรกิจนั้นถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ผิดกฏของ Google รวมไปจนถึงมีจำนวน Keywords ที่มากพอ เพราะถ้าธุรกิจของคุณมีจำนวนการค้นหาที่น้อย อาจจะต้องใช้แนวทางอื่นแทน เช่น Google Display หรือ Youtube เพื่อเพิ่มการรับรู้

การรับทำโฆษณาบน Google Ads จะประกอบไปด้วยการลงโฆษณาบน Google Network ที่มีด้วยกันสองระบบอันประกอบไปด้วย Search Network และ Display Network โดยในแต่ละเน็คเวิร์คจะให้การแสดงผลของโฆษณาบน Google ที่แตกต่างกันออกไป ประกอบไปด้วย

  1. Google Search Ads (Pay Per Click) – โฆษณาในรูปแบบของการค้นหา ที่จะให้คุณเลือกซื้อคีย์เวิร์ด (Keywords) เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เหมาะสำหรับเน้นในการสร้างยอดขายเป็นหลัก และมีประสิทธิภาพที่ดี
  2. GDN (Google Display Network) – โฆษณาที่จะแสดงแบนเนอร์โฆษณาไปยังเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ต่างๆ ในรูปแบบของ Display Ads เหมาะสำหรับใช้ในการสร้าง Awareness และ Consideration ได้ค่อนข้างดี เพราะต้นทุนต่อการคลิกค่อนข้างต่ำ (CPC) รวมถึงยังสามารถเลือกได้ว่าอยากให้แบนเนอร์ของคุณแสดงในเว็บไซต์ไหนได้อีกด้วยผ่าน Placement Targeting หรือเลือกลงแบบพรีเมี่ยมด้วย Demand Gen ที่จะทำให้คุณแสดงแบนเนอร์ได้บนระบบของ Google เอง
  3. App Campaign เข้าถึงผู้ใช้งานแอปพลิเคชันให้ทุกคนโหลดแอปของคุณ รวมถึงสร้างแคมเปญ Re-Engagement เพื่อสร้างยอดขายต่อได้ในอนาคตเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชัน และต้องการเพิ่มยอดการใช้งาน (Monthly Active Users) และยอดขาย
  4. Shopping Ads โฆษณาสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณ เหมาะสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่ต้องการขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มยอดขาย และจำนวนคนเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์