บทความก่อนหน้านี้ Digi Era ได้นำเสนอไปว่า Google Tag Manager คืออะไร และทำหน้าที่อะไรบ้าง รวมไปจนถึงส่วนต่างๆ ที่จะต้องรู้ของ Tag Manager แต่ในวันนี้ จะมาขอนำเสนอเพิ่มเติมว่า เหตุผลว่าทำไมต้องเลือกใช้ Tag Manager แทนที่จะให้เป็นหน้าที่ของ Developer แบบเต็มๆ

#GTM ช่วยให้งานของคุณรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

การทำตลาดออนไลน์ผ่าน Adwords หรือ Facebook มักจะ ต้องติดตั้ง Conversions Pixel ในหน้า Thank You เพื่อที่จะนับว่ามีจำนวนคนกี่คนที่ได้ซื้อสินค้าของคุณผ่านออนไลน์บ้าง โดยลักษณะของ Pixel จะเป็นรูปแบบของ Java Script รูปแบบหนึ่งที่ผู้ที่ต้องการจะทำการโฆษณาต้องส่งให้ทาง Developer เป็นคนจัดการให้ และด้วยที่ทาง Dev ก็มีงานเยอะอยู่แล้ว ก็อาจจะทำให้สิ่งที่ได้เปิดเป็น Ticket ไปนั้นจะเสร็จไม่ทันเวลา

ดังนั้น การเลือกใช้ Google Tag Manager เข้ามาเป็นตัวกลางระหว่าง Marketing และ Developer เพื่อที่จะทำให้งานนั้นเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะทาง Marketing เองก็สามารถที่จะ Setting Up Pixel ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งให้ Dev เข้ามาช่วย ยกเว้นในเรื่องที่อาจจะ Technical มากจนเกินไป

Image by – https://megalytic.com/blog/implementing-analytics-with-google-tag-manager

#GTM ช่วยให้สามารถควบคุมในทุก Pixel / Event ได้ในที่เดียว

คงจะปวดหัวน่าดูถ้าหากเราต้องติดตั้งทั้ง Facebook Pixel / Adwords Conversion Pixel หรือ Re-Marketing Tag รวมไปจนถึง การสร้าง Event Click / Form Submit ต่างๆ ในเว็บไซต์ การทำด้วยวิธีแบบ Hard Coding นั้นอาจจะทำให้คุณหัวร้อนได้

แต่ในทางกลับกัน Google Tag Manager จะสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ในที่เดียว โดยที่ไม่ต้องใช้บริการจาก Dev บ่อยนัก รวมทั้งคุณสามารถที่จะเปิด หรือปิดการใช้งานตอนไหนก็ได้ ตามแต่ที่คุณต้องการ รวมไปจนถึงการสร้าง Event Click / Form submit ก็ใช้เวลาที่ไม่นานมากนัก

นอกจากนั้นใน การติดตั้งผ่าน Google Tag Manager คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความสามารถในเขียน Code เท่าไหร่นัก หากแต่ว่าใช้เพียงแค่ ID เท่านั้น อย่างเช่น การติดตั้ง Analytics ผ่าน GTM ก็แทบที่จะไม่ต้องจำ Code ยาวๆ ที่ทาง Analytics ได้ Generate มาให้เพียงแค่ Copy ตัวเลข UID มาใช้ก็เป็นอันเรียบร้อย

#GTM ช่วยให้สามารถทดสอบได้ว่าสิ่งที่ได้ติดตั้งไปนั้นถูกต้องหรือไม่

การใช้ Tag Manager จะช่วยทำให้การสร้าง Event หรือ Pixel ที่ต่างๆ ที่ได้ติดตั้งไปนั้นถูกต้องมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Previews Tag ที่จะทำให้คุณตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่ได้ติดตั้งไปนั้นถูกต้อง หรือแม่นยำกี่ % ก่อนที่จะทำให้ Pixel หรือ Event นั้นๆ ออนไลน์ หรือแม้ว่าคุณจะพลาดกดผิดทำให้ Tag นั้นออนไลน์ก่อนขึ้นมา คุณก็จะสามารถ Roll Back กลับไปใช้เวอร์ชั่นเก่าแทนก็ยังได้

สรุป

Google Tag Manager แม้ว่าจะสามารถช่วยให้การทำงานระหว่าง Developer กับ Marketing ง่ายขึ้นก็จริงอยู่ แต่ในบางครั้งทางฝ่าย Marketing ก็อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากทาง Dev อยู่เช่นเดียวกันเพราะการที่จะ ติดตั้ง Event ต่างๆ ให้กับ Analytics จำเป็นที่จะต้องมีความรู้เรื่อง HTML บ้าง เพราะถ้าไม่รู้เลย GTM ก็อาจจะเปล่าประโยชน์ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มสร้าง Event ใดๆ ให้กับ Google Analytics ก็ควรที่จะต้องศึกษาเรื่อง DIV / ID ใน HTML มาพอสมควร