การทำการตลาดออนไลน์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 แชแนลใหญ่ๆ ด้วยกันนั่นก็คือ Google Ads (AdWords) หรือ Facebook Ads อย่างไรก็ตามการลงโฆษณาบนกูเกิ้ลในทุกวันนี้หลายๆ คนมักจะเน้นไปที่ Search Engine Marketing (SEM) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาที่บอกได้เลยว่าคุณไม่ควรที่จะพลาด และจะต้องศึกษาก่อนที่จะลงมือทำเองจริง

SEM (Search Engine Marketing) คืออะไร?

SEM คือ การทำการตลาดออนไลน์รูปแบบหนึ่งที่จะต้องทำผ่านระบบ Search Engine ต่างๆ เช่น Google Search เป็นต้น โดยระบบจะคิดค่าบริการหรือโฆษณาเมื่อมีคนคลิกที่คำโฆษณาของคุณ โดยจะมีชื่อเรียกว่า PPC (Pay Per Click) โดยโฆษณาของเราจะเลือกโชว์ให้มีความสอดคล้องกับคีย์เวิร์ดเมื่อมีคนค้นหาในคำนั้นๆ ยกตัวอย่างจากภาพด้านล่างที่เราได้นำมาเสนอ ในการค้นหาด้วยคำว่า “ประกันภัยรถยนต์” ตัวโฆษณาก็จะโชว์คำโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของ Users

ภาพตัวอย่างระหว่าง SEM และ SEO

SEM กับ SEO ต่างกันอย่างไร?

ถ้าจะอธิบายตรงนี้ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คงต้องอธิบายกันยาว แต่ขอบอกไว้เลยว่าทั้งสองอันมีความคล้ายคลึงอัน แต่ไม่เหมือนกันไปเสียทีเดียว โดยทั้งสองระบบคือการทำงานบนะบบเดียวกันนั่นก็คือ Search Marketing ที่จะต้องอิงผ่านเว็บไซต์ค้นหา ถ้าให้ไทยก็จะเป็น Google Search เป็นต้น แต่ทั้งสองมีหลักในการทำงานที่ต่างกันออกไป เริ่มกันที่ Search Engine Optimizations ที่จะเน้นจัดดันผลการค้นหาแบบ Organics เน้นกันที่คอนเทนส์ และคุณภาพของเว็บไซต์ สามารถดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ SEO คืออะไร เป็นหลัก ขณะเดียวกัน SEM หรือ Search Engine Marketing จะเน้นการ Optimize เช่นเดียวกัน แต่จะใช้คนละมุมมอง เช่น การลดจำนวนค่าคลิกด้วยการเล่นที่ Quality Socre, การสร้างให้มีคนเห็นจำนวนเยอะๆ เช่น Search Impression Share เป็นต้น เพราะว่าเราต้องทำให้เกิดตอบรับกลับมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เทคนิคการทำ SEM มีอะไรบ้างที่คุณควรรู้

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการจะสร้างแคมเปญเพื่อทำโฆษณาบน Google Search (SEM) อาจจะง่ายๆ แต่ไม่ก็ได้เสมอไป วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคเบื้องต้นที่จะทำให้คุณสามารถไปพัฒนาแคมเปญของตัวเองได้

เข้าใจการเลือกใช้ Keywords

เนื่องจากเราต้องทำโฆษณาผ่านระบบค้นหาต่างๆ ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องให้ความสำคัญเลยคือ คีย์เวิร์ด ที่เราต้องการจะเลือกมาอยู่ในแคมเปญของเรา เพราะถ้าหากเลือกคีย์เวิร์ดผิดก็จะเท่ากับว่าเสียเวลาเปล่า สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ Keyword Research ได้ในบทความก่อนหน้านี้

การทำ Research Keyword สำคัญมากๆ แต่ถ้าจะต้องใช้ในแคมเปญของ SEM เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจการเลือกใช้ Match Type ให้ถูกต้องด้วย เพราะถ้าเราเลือกผิดอาจจะทำให้เราเสียเงินให้กับ Google โดยที่เราอาจจะไม่ได้อะไรกับมาเลย ซึ่งเราสามารถที่จะใช้คีย์เวิร์ดในรูปแบบต่างๆ ได้ทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ประกอบไปด้วย Broad, Broad Match Modified (BMM), Exact และ Phrase ซึ่งเราได้อธิบายไว้ในเบื้องต้นแล้วว่าควรใช้แต่ละ Match Type อย่างไรในบทความก่อนหน้านี้ >>> Keyword Match Type คืออะไร

เนื่องจากเราต้องจ่ายการทำ Search Engine Marketing ด้วยจำนวนคลิกที่เกิดขึ้น ยิ่งมีคลิกมาก อาจจะทำให้คุณจ่ายแพงขึ้น ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องกำจัดคลิกที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปด้วยการใช้ Negative Keywords ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้อง Target ในกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ออกไป แต่ทำอย่างไรเราได้อธิบายเอาไว้แล้วเช่นเดียวกันในบทความก่อนหน้านี้ – Negative Keyword คืออะไร ใช้อย่างไร?

คะแนนคุณภาพส่วนสำคัญที่จะทำให้ Ads มาอยู่หน้าแรกได้

คะแนนคุณภาพ (Quality Score) เป็นส่วนหนึ่งที่คนทำโฆษณาบน Search Engine Marketing จำเป็นที่จะต้องรู้และทำความเข้าใจ โดยสรุปง่ายๆ ว่า Google จะมีการกำหนดคะแนนเอาไว้ 1 – 10 ยิ่งเรามีคะแนนที่สูง โอกาสที่เราจะต้องจ่าย Google นั้นก็จะถูกลง ไปพร้อมๆ กับอัตราการโชว์ในหน้าแรกก็จะเพิ่มขึ้น แต่จะต้องทำอย่างไร ให้ลองศึกษาต่อได้จากบทความนี้ Quality Score คืออะไร ทำไมถึงมีความสำคัญ

เข้าใจวิธีการสร้าง Account Structuring

ถ้าต้องการที่จะทำให้อัตราค่าคลิกถูกลงกว่าเดิม เราจำเป็นที่จะต้องสร้าง Account Structure ของ SEM ให้รองรับกับคีย์เวิร์ด และธุรกิจของเราเพราะยิ่งถ้าหากเราสามารถที่จะวางฐานของแคมเปญได้ดี ย่อมที่จะส่งผลทำให้แคมเปญของคุณมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงกว่าเดิม รวมทั้งอาจจะทำให้ CTR ของคุณนั้นดีขึ้นกว่าเดิม

คำโฆษณาและส่วนเสริม (Ads & Extension)

สำหรับคำโฆษณา (Ads Text) หรือส่วนเสริม (Extension) เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการทำโฆษณาบน Google Search (SEM) เพราะคำโฆษณาจะต้องโชว์ในหน้าค้นหาของ Google ดังนั้นหน้าที่ของคนทำจึงจำเป็นที่จะต้องเขียนคำโฆษณาให้มีความน่าสนใจ และน่าคลิกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเช่นเดียวกันในหน้าแลนดิ้งเพจ หรือเว็บไซต์ปลายทางจะต้องมีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าของคุณ คงแปลกน่าดูถ้าขายเสื้อผ้า แต่ส่งคนไปยังหน้าขายรองเท้า

สำหรับส่วนเสริมจะเป็นส่วนขยายที่จะทำให้โฆษณาของคุณนั้นขยายใหญ่ขึ้น และดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากอยู่ในระดับ Top Impressions หรือ Absolute Top Impression โดยตัวโฆษณาจะโชว์ตามแบบภาพดัานล่าง ซึ่งหลักๆ แล้วในประเทศไทยสามารถใช้ Extension สามารถใช้งานได้เกือบครบ แต่มันก็ไม่ทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วย

1. Sitelink Extension
2. Call Out Extension
3. Call Extension
4. Location Extension
5. Structure Snippet Extension
6. App Download Extension

การวัดผลหรือประสิทธิภาพของการทำ SEM

การวัดผลหรือประสิทธิของ Search Engine Marketing ประกอบไปด้วยหลายๆ อย่างด้วยกัน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจที่ได้เลือกลงโฆษณา แต่หลักๆ แล้วถ้าเลือกที่จะทำ Google Search การวัดผลที่เหมาะสมก็น่าจะเป็น จำนวนคนคลิก (Clicks) หรือ อัตราเฉลี่ยการคลิก (CTR) รวมไปจนถึง ค่าคลิกเฉลี่ย (average CPC) เป็นต้น นอกจากนั้นการวัดผลที่น่าจะเหมาะกับหลายๆ ธุรกิจ และอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ Conversions สามารอ่านเรื่อนี้ได้ที่ conversion คืออะไร

ทั้งหมดเป็นส่วนประกอบหลักๆ ที่ควรจะต้องเรียนรู้สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหา การทำ SEM ในเบื้องต้น ทาง Digi Era หวังว่าคอนเทนส์นี้จะสามารถที่จะทำให้เข้าใจเรื่องของ Search Engine Marketing ได้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่มากก็น้อย สำหรับใครก็ยังคงมีปัญหาเรื่องนี้ก็สามารถหลังไมมาถามได้ตลอด จะพยายามตอบทุกคน