สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ (SME) ที่กำลังลงมาอยู่ในตลาดออนไลน์ และสนใจที่จะทำการตลาดบนระบบของ Google Adwords แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีให้ประสบผลสำเร็จ และสามารถที่จะส่งผลกำไรต่อบริษัทของคุณได้ ดังนั้นวันนี้ผมจึงอยากที่จะแนะนำว่าถ้าหากเริ่มทำ Search Engine Marketing / PPC ควรจะเริ่มทำอย่างไรด้วยเทคนิคง่ายๆ
เลือกอ่านเฉพาะบางหัวข้อที่คุณต้องการ
เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการลงทุนทำโฆษณา
แน่นอนถ้าเราต้องการจะลงทุนอะไรสักอย่าง จำเป็นที่จะต้องมีเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน การลงทุนในการทำโฆษณาผ่านระบบ Google Adwords ก็เช่นเดียวกันที่จะต้องมีหลัก และเป้าหมายที่แน่ชัดว่าต้องการที่จะลงทุนไปเพื่ออะไร และถ้าหากเราได้กำเป้าหมาย และวางแผนได้เป็นอย่างดีแล้ว ในการเริ่มต้นช่วงแรกๆ อาจจะต้องเริ่มด้วยเม็ดเงินที่ไม่สูงมากนัก เพราะข้อดีของการทำ PPC คือ การกำหนดจำนวนเงินที่จะใช้แบบรายวัน และจะคิดเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเพียงเท่านั้น และถ้าเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วการทำ Ads ของเราส่งผลให้ทางที่ดีขึ้นก็อาจจะพิจารณาในการเพิ่มจำนวนเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือลดลงเมื่อผลออกมาไม่ได้ตามที่ต้องการ
ตัวอย่างเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้น
- Build Awareness – เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเพียงแค่ให้ลูกค้ารู้จักเพียงแค่แบรนด์ของคุณ ทำให้การเลือกเป้าหมายแบบนี้ มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากนัก แต่อาจจะได้เพียงแค่คนเห็นเท่านั้น
- Influencer Consideration – สำหรับเป้าหมายนี้เป็นรูปแบบที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะปิดการขาย หรือมีสินค้าที่ต้องการขายออนไลน์
- Drive Actions – เป้าสุดท้ายที่เหมาะกับเว็บไซต์ที่เน้นเพื่อขายสินค้าออนไลน์ หรือใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของคุณเป็นหลัก โดยใช้ระบบต่างๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้เกิดการขายได้ง่ายขึ้นยิ่งกว่าเดิม
การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง และกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าคุณ
บทความก่อนหน้านี้ผมได้บอกถึงวิธีการค้นหาคีย์เวิร์ดไปบ้างแล้วสำหรับ SEO แต่ถ้าจะมองหาคีย์เวิร์ดที่ดีสำหรับ Google Adwords นั้นค่อนข้างยากถึงยากมากๆ เพราะคุณจะต้องมองหาคีย์เวิร์ดที่สามารถบอกได้ว่าคำค้นหาเหล่าหาจะเปลี่ยนจากเพียงแค่คลิกมาเป็นลูกค้าของคุณทำให้คุณสามารถมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และขายสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Cost / Clicks หรือ Cost / Orders เป็นต้น
นอกจากคีย์เวิร์ดแล้วในระบบของ Google Adwords ยังสามารถมองหากลุ่มเป้าหมายได้ในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพศ, อายุ หรือความชื่นชอบของแต่ละบุคคลเป็นต้น เพราะคุณจะต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายเล่านี้เพื่อโปรโมทสินค้าให้ตรงต่อความต้องการให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้โดยเสียเงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ แต่อย่างไรก็ตามในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากๆ อาจจะต้องยอมเสียเพื่อเงินที่มากกว่า
คำโฆษณา หรือ Ads Copies
แม้ว่าจะมีคีย์เวิร์ดที่ดี และมั่นใจว่าทำเงิน แต่ถ้าหากมีคำโฆษณาที่ไม่ได้ส่งเสริมต่อกัน จงมั่นใจได้เลยว่าโฆษณาของคุณจะไม่ได้ส่งผลอย่างที่คิดแน่นอน เพราะมันส่งผลถึง KPI อย่าง Click หรือ CTR โดยตรง ซึ่ง Ads Copies ที่ดีนั้นมักจะประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ตรงกับคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกใช้ เพราะถ้าหากเลือกใช้ Ads Copies ที่ไม่ตรงกันแล้วมันจะส่งผลเสียอย่างมาก เช่น Click ที่เป็นขยะ รวมไปจนถึงคะแนนคุณภาพหรือ Quality Score ของคุณก็อาจจะต่ำลง และจะต้องจ่ายค่าคลิกที่เยอะขึ้นกว่าเดิม
- มีความครีเอทีฟ แม้ว่าจะคิดคำโฆษณาที่ตรงต่อสิ่งที่ Google อยากได้แล้ว แต่จะให้สามารถเพิ่ม Click หรือ CTR ได้นั้นตัว Ads Copy จะต้องครีเอทีฟ และบ่งบอกถึงผลประโยชน์ที่คนค้นหาเหล่านี้จะได้ด้วย อย่างเช่น การใช้โปรโมชั่นเป็นต้น
Trail & Error.
สำหรับคนที่ประสบผลสำเร็จทางด้านนี้มักจะไม่ปล่อยให้แคมเปญที่ได้เปิดไว้นั้นอยู่เฉยๆ และมักจะใช้หลักการ A/B Testing อยู่ตลอดเวลา เพื่อมองหาว่าแบบไหนที่จะมีความเหมาะสมกับลูกค้าของเรามากที่สุด โดยคุณสามารถทดลองได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Ads Copies / Landing Page และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังต้องการจะทำ Google Adwords ในช่วงเริ่มต้นไปปรับใช้กับแคมเปญของตัวเองได้อย่างแน่นอน
บทความอ้างอิง https://searchenginewatch.com/2017/05/16/ppc-101-eight-tips-to-get-started/