การตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปัจจุบันมีความนิยมสูง และใครๆ ก็มักจะใช้กัน ซึ่ง Google Ads ก็เป็นหนึ่งที่หลายๆ คนเลือกที่จะใช้ ในวันนี้ Digi Era จึงอยากที่จะหยิบประเด็นนี้มาอธิบายให้ได้ทราบกันว่า เครื่องมือชนิดนี้คืออะไร และทำอะไรได้บ้าง
เลือกอ่านเฉพาะบางหัวข้อที่คุณต้องการ
Google AdWords คืออะไร?
Google Ads หรือชื่อเดิม AdWords คือ เครื่องมือที่ทางกูเกิ้ลได้ออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถลงโฆษณาบนเครือข่ายของเขาได้ อาทิเช่น Google Search (SEM), Google Display Network (GDN), Youtube Advertising, Universal App Install หรือ Google Discovery เป็นต้น โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีหน้าที่ ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้การลงโฆษณาบน Google นั้นเกิดผลประโยชน์สูงสุด
ทำไมต้องเลือกใช้ AdWords
จากข้อมูลการสำรวจการใช้งานอินเตอร์เน็คจาก Hootsuite อัพเดทล่าสุดในปี 2021 สามารถที่จะเข้าไปอ่านข้อมูลฉบับได้ที่ (https://datareportal.com/reports/digital-2021-thailand) บอกว่า Google เป็นเว็บไซต์ที่มียอดผู้เข้าใช้งานเป็นอันดับที่ 1 ต่อด้วย Youtube และ Facebook จากผลสำรวจนี้พอจะบอกได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงใช้งาน Google สืบค้นหาข้อมูลอยู่เป็นประจำ และอาจจะทุกวัน รวมทั้งเสพสื่อบันเทิงต่างๆ บน Youtube โดยที่ทั้งสองมาจากผู้ให้บริการรายเดียวกัน
ดังนั้นจึงเป็นคำตอบได้พอสมควรว่า ถ้าเราเลือกลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Google ก็จะสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานกว่าค่อนประเทศ แต่ใช่ว่าจะเข้าได้ทุกราย เพราะบนแพลตฟอร์มนี้ก็มีข้อห้ามอยู่เช่นเดียวกัน เพราะในบางธุรกิจเราอาจจะไม่สามารถที่จะโฆษณาบนเครือข่ายนี้ได้ อาทิเช่น การพนัน, สินค้าสนับสนุนความรุนแรง (อาวุธปืน), เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพบางชนิด เป็นต้น
เช่นเดียวกันในเมื่อมียอดผู้ใช้งานเยอะ ก็ย่อมมีผู้แข่งขันจำนวนมากเช่นเดียวกัน ทำให้ค่าโฆษณาเพิ่มเป็นงาตามตัว แนะนำว่าเราควรที่จะกระจายงบประมาณไปช่องทางต่างๆ เพื่อให้เกิดความสมดุล และได้ผลตอบรับกลับมาในขอบเขตที่เราขาดว่าจะรับได้
บริการต่างๆ ที่อยู่บน Google Ads มีอะไรบ้าง
Google Ads ได้แบ่งการให้บริการของตัวเองเป็น 2 เน็ตเวิร์ตใหญ่ๆ ด้วยกัน เราจะเรียกกันว่า Display Network และ Search Network ทั้งสองจะให้บริการที่แตกต่างกันโดยแบ่งย่อยออกไปอีก มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันครับ
Google Search / Search Engine Marketing (SEM)
เริ่มต้นกันที่บริการแรกที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เราเรียกกันสั้นๆ ว่า SEM หรือ Search Engine Marketing มันคือการทำโฆษณาบนระบบค้นหาของกูเกิ้ลนั่นเอง โดยจะแสดงผลการโฆษณาตามคีย์เวิร์ดต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราหาคำว่า ‘ประกันภัยรถยนต์’ ในค้นหาของกูเกิ้ล เราก็จะเห็นเป็นแสดงอยู่
แนะนำให้อ่าน SEM (Search engine marketing) คืออะไร ในบทความนี้ผมได้เขียนอธิบายหลักการทำงานเบื้องต้นเอาไว้ทั้งหมด สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ
Google Shopping Ads
ยังคงอยู่บน Search Network แต่เป็นแบบที่สอง เราจะเรียกว่า Shopping Ads ซึ่งมันเป็นโฆษณาอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน การลงโฆษณาแบบนี้จะเหมาะสมสำหรับธุรกิจประเภท eCommerce ที่สามารถให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้ในทันที ถ้าให้เห็นภาพแบบง่ายๆ มันก็คือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชแบบ ลาซาด้า หรือ โชปี้ นั่นแหละ ถึงจะสามารถเลือกใช้แบบนี้ได้
ทั้งการซื้อโฆษณาบน Shopping Ads เราจำเป็นที่จะต้องสมัครเพื่อขอใช้ Google Merchant Center ก่อนเพื่อทำการอัพโหลดสินค้าขึ้นไป และผู้อ่านท่านใดสนใจที่จะเลือกใช้บริการนี้ แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้ที่ Google Shopping Ads คืออะไร และ Google Merchant Center คืออะไร เพื่อเป็นข้อมูลเสริมในการตัดสินใจ
ทั้ง Shopping Ads และ SEM เป็นการลงโฆษณา Google AdWords บนเครือข่ายที่เราเรียกกันว่า Search Network ทั้งสองจะใช้ Target Users ด้วย Keyword ต่างๆ ที่คนค้นหา ซึ่งเราสามารถที่จะรู้ได้ว่าในแต่ละช่วงเวลาคนไทย หาอะไรกันบ้างด้วย Keyword Planner หรือใช้ Google Trends ดังนั้นการลงโฆษณาบนระบบค้นหา มักจะใช้ได้ดีสำหรับการเพิ่มยอดขายทางออนไลน์
Google Display Network (GDN)
สำหรับ Google Display Network หรือจะเรียกสั้นว่าๆ GDN เป็นช่องทางการทำโฆษณาบนเครือข่ายๆ อื่นที่ได้เข้าร่วมกับทางกูเกิ้ล อาทิเช่น แบนเนอร์ต่างๆ ที่ตามเว็บไซต์ที่คุณได้เข้าไปอ่าน เข้าไปชม หรือแอพพลิเคชั่นที่เราโหลดลงเครื่อง เป็นต้น
Youtube Advertising
อันนี้จะเป็นการลงโฆษณาบนเครือข่าย Youtube ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ เลยก็คือ โฆษณา Video ที่ชอบมาขั้นเวลาที่เราดูวีดีโอ อยู่นั่นเอง แต่ในปัจจุบันถ้าใครซื้อ Youtube Premium ก็จะไม่เห็นโฆษณา
Universal App Campaign
โฆษณารูปแบบเดียวที่จะสามารถแสดงผลได้ทั้ง Search Network และ Display Network โดยจุดประสงค์ของการโฆษณานั้นก็เพื่อให้คนได้ดาวน์โหลดแอพลงเครื่อง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งแอพที่เป็นแอนดรอยด์ และ iOS ทั้งนี้ถ้าเป็น iOS เราอาจจะใช้ Apple Search ก็ได้
Discovery Ads
โฆษณารูปแบบใหม่ที่เราจะเรียกกันว่า Native Ads โดยมันจะแสดงผลบนระบบ Google Network ทั้งหมด แต่จะไม่รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ที่เข้าเป็นพาร์ทเนอร์ แต่จะเป็นเว็บต่างๆ ที่กูเกิ้ลเองเป็นเจ้าของเช่น Gmail, Youtube หรือ Discovery App
ทั้ง Google Display (GDN), Youtube Advertising, Discovery Ads ล้วนเป็นการลงโฆษณาที่เลือกใช้ Targeting แบบ Interest เป็นหลัก อาทิเช่น เข้าถึงกลุ่มที่ชื่นชอบเรื่องรถ, การทำอาหาร หรืออื่นๆ เป็นต้น รวมทั้งการนำมาใช้เพื่อรีมาร์เก็ตติ้งอีกด้วย สำหรับ Display Network ค่อนข้างเหมาะสมกับธุรกิจที่ต้องการจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ หรือรู้จักบริการสินค้าของตัวเอง เพราะเน้นการกระจายไปยังสื่อต่างๆ ที่ทั้งอยู่บน Network ของกูเกิ้ลเอง หรือเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์
Google Ads คิดเงินอย่างไร
ข้อสุดท้ายถ้าเราต้องการจะลงโฆษณาเราจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าปกติแล้ว Google Ads หรือ AdWords จะเก็บเงินอย่างไรบ้าง เช่นเดียวกันขอแบ่งรูปแบบออกเป็น Search Network และ Display Network เช่นเดียวกัน แต่ก่อนอื่นเลย Google Ads จะให้เราใช้จ่ายเป็น Daily Budget (บริหารการเงินแบบรายวัน) สมมติเราได้รับหน้าที่ให้บริหารงบประมาณที่ 30,000 บาท เฉลี่ยแล้วเราจะต้องใช้วันละ 1,000 บาท หรือนำ 30,000/1000 บาท เราก็จะได้ยอดเงินที่จะต้องใช้ในแต่ละวัน
หลักการคิดเงินของ Search Network จะเป็นแบบ CPC หรือ Cost Per Click อันนี้ง่ายๆ เลยก็คือ เมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้น Google ถึงจะคิดเงินคุณ ดังนั้นถ้าเราต้องการทำ SEM เราจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้ดี เพื่อให้เราจ่ายค่าคลิกให้ได้ถูกที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่ไม่มีทางต่ำกว่าราคาตลาด อาทิเช่น การเพิ่มคะแนนคุณภาพ หรือ Quality Score หรือ การเลือกใช้ Keyword Match Type ให้ถูกต้อง เป็นต้น
หลักการคิดเงินของ Display Network จะแบ่งออกเป็นหลายๆ Model ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น CPM (Cost Per 1,000 Impressions), CPV (Cost Per View) หรือ CPC (Cost Per Click) เพราะระบบ Display จะสามารถใช้ได้ในหลายๆ จุดประสงค์ ทำให้การคิดเงินจึงต้องต่างกันออกไป
สรุปสั้นๆ
Google Ads คือ แพลตฟอร์มให้เราได้เข้าไปโฆษณาบนระบบ Network ของเขาที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันนั่นก้คือ Search Network และ Display Network โดยทั้งสองเน็ตเวิร์คจะมีจุดประสงค์ในการโฆษณาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผลลัพธ์ที่จะได้นั้นก็จะต่างกันออกไปด้วย เราเอง (Digi Era) บทความนี้จะทำให้พ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ที่ต้องการลงโฆษณาบนกูเกิ้ลจะสามารถเข้าใจเป็นภาพรวมได้ว่า เราจะสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างจากกูเกิ้ล โดยที่ไม่ได้โดนสูบเลือด สูบเนื้อมากจนเกินควร ดังนั้นเราขอเตือนไว้ว่าอาจจะต้องศึกษาข้อมูลด้านอื่นๆ ร่วมด้วยก่อนที่จะตัดสินใจมาลงโฆษณา