Google ประกาศจะไม่ให้เราใช้ Broad Match Modifier เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะปรับเปลี่ยนให้ไปใช้เป็น Phrase Match (Update) แทน โดยจะมีผลในเดือนกรกฏาคมนี้ ดังนั้นในวันนี้ Digi Era จึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก Match Type นี้กันให้มากขึ้น
เลือกอ่านเฉพาะบางหัวข้อที่คุณต้องการ
Keyword Match Type คืออะไร?
Recap กันอีกสักครั้งสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เข้าใจศัพท์นี้ สำหรับ การทำโฆษณาบน Google Search เราต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่า ‘Keywords’ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โฆษณาของคุณนั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ ซึ่ง Google ก็ให้เราเลือกใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างอิสระ แบ่งออกเป็น 4 แบบให้เราได้เลือกประกอบไปด้วย
- Broad หรือ Broad Match Modifier (ยกเลิกไปแล้ว)
- Phrase
- Exact
- Negative
ทั้งส 4 แบบเป็นคีย์เวิร์ดที่เราสามารถใช้ได้ใน Google Ads หากแต่ว่าอาจจะต้องบอกลา Broad Match Modifier ที่ได้ถูกยกเลิกไปเสียแล้วในปี 2021 สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากรู้เรื่องนี้ให้มากกว่านี้ ทาง digi era ได้เขียนเรื่องนี้เอาไว้นานละ สามารถอ่านต่อได้ที่ Keyword Match Type คืออะไร
Phrase Match คืออะไร?
Phrase Match (วลี) เป็นคีย์เวิร์ด Match Type หนึ่งที่เราสามารถเลือกมาใช้ได้ โดยลักษณะของคีย์เวิร์ดนั้นจะต้องมี “” อยู่ในนั้นด้วย อย่างเช่น “รองเท้าผู้ชาย” เป็นต้น โดยจะทำให้เราเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น เพราะถ้าเราเลือกใช้ระบบจะค้นหาคนที่หาคำว่า ซื้อ รองเท้าผู้ชาย, รองเท้าผู้ชาย ราคาเท่าไหร่ หรือ รองเท้าผู้ชาย ลาซาด้า เป็นต้น
ลักษณะของการใช้งานก่อนเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นแบบตัวอย่างที่ผมได้เสนอไปในข้างต้น นั่นก็คือคำว่า ‘รองเท้าผู้ชาย’ จะอยู่ด้านหน้า หรือด้านหลังของคำค้นหา แต่ตั้งแต่ในเดือนกรกฏาคมนี้เป็นต้นไป ตัวคีย์เวิร์ดจะเปลี่ยนไป เพราะมันจะทำหน้าที่คล้ายๆ Broad Match Modifier สามารถดูได้จากตัวอย่างด้านล่าง
ธรุกิจรับซื้อรถยนต์เจ้าหนึ่ง
ธุรกิจด้านการศึกษา
จากภาพตัวอย่างของสองธุรกิจจะสังเกตว่าช่วงเดือนมกราคม 2021 คีย์เวิร์ด Phrase ยังคงจะเป็นแบบที่เราได้รู้ และได้เข้าใจกัน แต่เมื่อเข้าเดือนกรกฏาคมรูปแบบของคีย์เวิร์ดก็เปลี่ยนไป กลายเป็น Broad Match Modifier มากขึ้น จากที่จะต้องอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังของคีย์เวิร์ด รูปแบบก็สามารถที่จะเข้าไปอยู่ตามคีย์เวิร์ดแบบต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน
แบบนี้อาจจะต้องรื้อโครงสร้างแคมเปญใหม่เพื่อจัดการให้ตัวแคมเปญสามารถที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม จากภาพตัวอย่าง คีย์เวิร์ด ‘เรียนโท’ ที่สามารถเจาะถึงกลุ่มเป้าหมายคนที่หาคำว่า ‘ปริญญาโท’ ได้อีกด้วย แน่นอนว่ามันคือคำเดียวกัน แต่อาจจะเขียนสั้นยาว
แต่ก็พอที่จะบอกว่า Phrase (Update) แทบจะเปลี่ยนมาเป็น Broad Match Modifier เต็มตัว แต่อาจจะมีข้อแม้ว่าจะไม่ได้กว้างกว่าแบบเดิมสักเท่าไหร่นัก เพราะจาก Search Term Report ที่เห็น ทุกคีย์เวิร์ดจะตรงกับคำหลักเสมอนั่นก็คือ ‘เรียนโท’ นั่นเอง
สำหรับเพื่อนๆ อยากรู้ว่าแอคเค้าท์ของตัวเองเป็นอย่างไรนั้น แนะนำให้ลองดู ‘Search Term Report’ กันอีกสักครั้ง ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตามในบางแอคเค้าท์ของผมเองรูปแบบของคีย์เวิร์ดก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก
นอกจากนี้ถ้าเราเข้าไปในส่วนของ Recommendation ใน Google Ads จะเห็นแจ้งเตือน ‘Redundant keywords’ ระหว่าง BMM และ Phrase Match คล้ายๆ ภาพด้านล่าง พอที่จะบอกได้ว่า Google AI เข้าใจสองคำนี้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ก็เป็๋นการอัพเดทของ Keyword Match Type ใน Google Ads ของปีนี้ ซึ่งเราจะไม่สามารถสร้างคีย์เวิร์ด Broad Match Modifier ได้อีกต่อไป หากแต่ว่ายังคงจะใช้ของเดิมได้อยู่ แต่ถ้าเริ่มแคมเปญใหม่ก็อาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็น Phrase ให้มากขึ้น และถ้าใครใช้ Negative แบบ Broad Match Modifier ก็อาจจะต้องหันมาใช้เป็น Phrase Match แทน สำหรับถ้าต้องการมองหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ ก็อาจจะต้องใช้ Broad ซึ่งจะทำให้เรามองหาคำใหม่ๆ ได้มากขึ้น