Google Analytics เป็นเครื่องมือฟรีที่จะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ และบอกได้ว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาตลอดระยะเวลานั้นมีคนเข้าไปชมเว็บไซต์ของคุณมากขนาดไหน หรือ คนที่เข้าชมเว็บไซต์มาจากประเทศอะไร รวมไปจนถึงพวกเค้าได้ทำกิจกรรมใดๆ บ้างบนเว็บไซต์ของคุณ และอื่นๆ อีกมากมาย แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือฟรีแต่ก็เป็นเครื่องมือที่ยังมีสามารถ Customize หรือจัดการได้อย่างหลากหลายทำให้เจ้าของเว็บไซต์รู้รายละเอียดเกี่ยวกับ Users ได้มากขึ้น

อย่าลืมที่จะสร้าง Google Analytics Goal

Admin > Property > Goals

Goal ใน Google Analytics เป็นฟีเจอร์แรกๆ ที่เจ้าของเว็บไซต์หรือคนทำ Online Marketing ต้องติดตั้งให้เป็น โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งผ่านการใช้ URL หรือ Tag Manager ซึ่ง Goal จะเปรียบเสมือนกับ Conversions Pixel ของ Facebook หรือ Google Adwords แต่จะทำหน้าที่ต่างกันออกไป และเมื่อได้ติดตั้งแล้วนั้นก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าแคมเปญออนไลน์ที่ได้จ่ายเงินไปนั้นมีผลตอบรับมาเป็นอย่างไรบ้าง และเราก็จะสามารถพัฒนาแคมเปญที่ได้ดำเนินอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้

อย่ามัวแต่ Track ตัวเอง

Admin > Propery > Filter

GA จะสามารถเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ได้ ดังนั้นมันก็สามารถที่จะ Track คุณเป็น Users ได้เหมือนกัน เนื่องจากว่ามันไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร ดังนั้นทางที่เราก็ควรที่จะ Filter IP Internet ภายในบริษัทของเราออกเสียเพื่อที่จะไม่ให้ข้อมูลนั้นสับสน หลายคนอาจจะบอกว่าจะเอาออกทำไมในเมื่อในแต่ละวันก็เข้าเว็บตัวเองไม่กี่ครั้งแต่ลองคิดดูว่าถ้าเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่ๆ มีพนักงานหลายๆ คน มันก็อาจจะทำให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ข้อมูลจริงๆ ได้เหมือนกัน

อย่าลืมที่จะเชื่อม Google Analytic กับ Webmaster Tool (Search Console)

ACQUISTION > Search Console > Landing Page

สำหรับ Webmaster Tools หรือเรียกอีกอย่างว่า Search Console จะเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยในด้าน SEO แต่การที่เราได้เชื่อมการทำงานทั้งสองเครื่องมือนี้เข้าด้วยกันนั้นจะทำให้คุณเข้าใจเรื่อง Organic Trends ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อได้เชื่อมทั้งสองเครื่องมือเข้าด้วยกันใน Google Analytics ก็จะบอกได้ว่า Landing Page ไหนถูกโชว์มากที่สุด หรือมีคลิกมากที่สุดที่จะสามารถอนุมานได้ว่ามาจาก Organic Search

รู้จักการสร้าง Customize Reports เพื่อให้สะดวกแก่การใช้งาน

Customization > Custom Report

Customize Reports จะทำให้คุณประหยัดเวลาในตรวจสอบ Performance ของโฆษณาได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณสามารถที่จะเลือกดูเฉพาะแคมเปญ หรือ Marketing Channel ได้ รวมไปจนถึงการเรียกดูในหลายๆ Metric ในหน้าเดียวโดยที่ไม่ต้องเลือกหลายๆ เมนู แต่ในบางครั้งการคำนวณในหน้า Custom Reports อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก

รู้จักการ Setting Custom Alert

Admin > Property > Custom Alert

Custom Alert เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งใน Google Analytics ที่น่าจะใช้มากๆ เพราะจะเป็นตัวช่วยบอกคุณได้ว่าในแต่ละวัน Traffic ที่ได้เข้ามานั้นเป็นอย่างไร อาทิเช่น Traffic ที่เข้ามามีเยอะจนเกินไป หรือ Conversions เกิดน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับวันเดียวในเดือน หรืออาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคุณสามารถที่จะ Setting ได้ด้วยตัวเองว่าจะให้ Alert ในเรื่องใดเป็นหลัก

หมั่นที่จะจัดการกับกลุ่มคนที่เข้าเว็บไซต์ของคุณ

Admin > Property > Segment

Google Analytics จะคอยเก็บข้อมูลต่างๆ คนที่เข้าเว็บไซต์ของคุณตลอดเวลา โดยข้อมูลเหล่านั้นสามารถบอกได้ว่าคุณมีอายุเท่าไหร่ มาจากจังหวัดไหน และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะ Segment ได้ว่าอยากที่จะเจาะจงกลุ่มลูกค้ากับกลุ่มใดมากที่สุด ด้วยการ Segment เอาไว้ดูเป็นเฉพาะอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าผู้ชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นต้น เพื่อเป็นตรวจสอบว่ากลุ่มนี้เป็นมีพฤติกรรมอย่างไร แต่คุณสามารถที่จะ Segment ได้หลายๆ อย่างขึ้นอยู่กับบริบท และแนวทางในการพัฒนาแคมเปญที่อยากจะก้าวไปในข้างหน้า

ตรวจดูบ่อยๆ ว่าเว็บไซต์เร็ว หรือช้าเหมือนเต่า

Behavior > Site Speed > Overview > Page

ยิ่งเว็บไซต์ของคุณเร็วเท่าไหร่ยิ่งส่งผลให้ User Experience นั้นดีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นในการเปิดแคมเปญออนไลน์ขึ้นมาสักแคมเปญหนึ่ง ก็ควรที่จะมั่นใจด้วยว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความเร็วพอที่จะทำให้หน้าเว็บโหลดได้ภายในระยะเวลาอันสั้นไม่เกิน 3 – 5 วินาที เพราะเชื่อกันว่าถ้าช้ากว่านี้จะทำให้ Users นั้นปิดหน้าหนี และ Bounce Rate จะเพิ่มสูงขึ้นได้ โดยคุณสามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าในแต่ละ Landing Page มีความเร็วในการโหลดเท่าไหร่ / วินาที

คนที่เข้าเว็บไซต์ของคุณใช้ Browsers อะไรกันบ้าง

Audience > Technology > Browser & OS

การตรวจเช็คว่าคนที่เข้าเว็บไซต์มานั้นได้เข้าผ่านบราวน์เซอร์ไหนบ้างนั้นจะเป็นตัวช่วยทำให้คุณสามารถพัฒนา User Experience ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบดีไซน์เว็บให้เหมาะกับบราวเซอร์นั้นโดยเฉพาะ แต่ Browser ยังคงไม่พอ คุณอาจจะต้องดูว่า Resolution ไหนที่เกิด Bounce Rate สูงที่สุด และมี Traffic เข้ามามากๆ นั่นแสดงว่าเว็บคุณไม่ได้ออกแบบมาสำหรับมือถือ หรือ Responsive Design

Real Time Reports ประโยชน์หลากหลาย

Real Time > Overview

Real Time Reports เป็น Functions ใหม่ที่ Google Analytics เพิ่มเข้ามาได้ไม่นานเท่าไหร่นักสักประมาณ 2 – 3 ปี โดยคุณสามารถที่จะบอกได้ว่า ณ ปัจจุบันนั้นมีคนกำลังใช้งานเว็บของคุณอยู่เท่าไหร่ รวมไปจนถึงพวกเขาได้เข้าเว็บไซต์ผ่านช่องทางใด หรือพวกเขากำลังทำกิจกรรมใดๆ กับเว็บไซต์ของคุณอยู่ คุณสามารถที่จะติดตามได้แบบ Real Time ในหน้านี้และยังสามารถที่จะดูพฤติกรรมล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นใน 30 นาทีที่ผ่านมาก็ได้เช่นเดียวกัน

ควรที่จะใช้ UTM Code ให้เป็น

https://example.com?utm_source=google&utm_medium=ppc

UTM Parameter เป็นตัวช่วยในการทำ Online Marketing มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Newsletter / Facebook Ads / Line Message / Advertorial รวมไปจนถึง SMS โดยที่คุณจะสามารถ Track ได้ว่ามี Traffic หรือ Event ใดๆ บ้างที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางเหล่านี้ โดย UTM จะประกอบไปด้วย Source / Medium / Campaign / Content และ Term รวมไปจนถึงคุณก็ยังสามารถที่จะใช้ UTM กับ Adwords หรือ Display Campaign ได้ถ้าหากไม่ได้ตั้งค่า Auto Tracking และเชื่อม Adword กับ Google Analytic เข้าไว้ด้วยกัน

วิเคราะห์ Site Search ใน Analytics

Behavior > Site Search > Search Term

Site Search เป็นอีกหนึ่ง Functions ที่ค่อนข้างจะดีสำหรับเว็บไซต์ที่มี Search Bar เพราะมันจะสามารถบอกได้ว่าคนที่ได้เข้าเว็บไซต์มานั้นได้ใช้ Search Bar ในการค้นหาข้อมูลอะไรบ้างหรือไม่ อย่างเช่น การค้นหารายชื่อสินค้าในเว็บค้าขายออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น

รู้จักการใช้งาน Behavior Flow

Behavior > Behavior Flow

ในทุกพฤติกรรมจะถูกเก็บไว้ใน Google Analytics แทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงสถิติแบบตัวเลข หรือข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์แบบแผนภาพ ที่จะสามารถบอกได้ว่า Users ที่ได้เข้ามามีพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาได้ออกไปในหน้าไหน หรือเข้าในหน้า A แล้วคลิกไปต่อหน้า B หรือไม่ หรือเมื่อได้เลือกซื้อสินค้าแล้วพวกเขายังคงอยู่ในเว็บไซต์ด้วยการคลิกไปเมนูอื่นๆ หรือเลือกที่จะออกในหน้าดังกล่าว

ทั้งหมดนี้เป็น Tip & Trick ที่คุณสามารถที่จะนำไปปรับใช้กับแคมเปญที่ได้ออนไลน์อยู่ ณ ตอนนี้ได้ แต่ใน Google Analytics ยังมี Trick อีกค่อนข้างเยอะแยะมากมายที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แล้วทาง Digi Era จะนำทริคดีๆ แบบนี้มานำเสนอได้ในครั้งต่อไป ถ้ามีปัญหาด้าน Analytics ก็สามารถที่จะตั้งคำถามเอาไว้ได้