Digi Era
  • Home
  • Google Adwords
  • seo
  • Google Tag Manager / Analytics
  • สอน Google AdWords ฟรี 2020
Digi Era
  • Home
  • Google Adwords
  • seo
  • Google Tag Manager / Analytics
  • สอน Google AdWords ฟรี 2020
Google Adwords

รวบทุกการอัพเดตของ Google Ads ในปี 2019

by Apiwat Chaleamjit (X) January 1, 2020
written by Apiwat Chaleamjit (X) January 1, 2020

ตลอดปี 2019 มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เช่นเดียวกันกับ Google Ads ที่ในปีที่ผ่านมาที่อัพเดตทำให้แพลตฟอร์มของตัวเองดีขึ้นกว่าเดิม ลองมาดูกันว่าในปีที่แล้ว แม้ว่าจะเพิ่งผ่านมาเพียงแค่ 1 คืนก็จะเรียกว่าปีที่แล้ว Google Ads ได้อัพเดตอะไรบ้างที่น่าสนใจ

สารบัญ

  • ลาก่อน Average Positions มาใช้ Search Impressions Share กัน
  • ลาก่อน Accelerated delivery
  • Phrase / Broad Match Modifier / Exact ถูกทำให้กว้างขึ้น
  • เราสามารถที่จะ Target Audience ได้ใน Search
  • Google Audience Expansion Tools
  • สามารถเลือก Conversions ในแต่ละแคมเปญได้อย่างอิสระ
  • Bumper Ads Creator
  • VDO ใน Responsive Display ads
  • สร้าง Custom Audience ด้วยตัวคุณเอง
  • Google Discovery Ads
  • Leads Ads Extension

ลาก่อน Average Positions มาใช้ Search Impressions Share กัน

สำหรับใครที่กำลังรัน Search Ads / SEM ต่างรู้กันดีว่า Quality Score นั้นสำคัญไฉนเพราะมันแทบจะเป็นตัวช่วยที่อาจจะทำให้โฆษณาของคุณอยู่เหนือกว่าชาวบ้าน ในอัตราการจ่ายค่าคลิกที่ต่ำกว่าหรือบางคนอาจจะไม่อยากได้อันดับที่ 1 เพราะมองว่าอาจจะยากเกินเอื้อม หรืองบอาจจะน้อย แต่ในปีนี้ Google Ads ได้ประกาศที่จะเลือกใช้ Average Position และได้มีการเตือนมาเกือบครึ่งปี โดยเราไม่สามารถดู Report อันนี้ได้แล้วในตอนนี้ทั่วโลกไม่ว่าจะที่ไหน

อย่างไรก็ตามถ้าเราอยากรู้ว่า Ads ของเราอยู่อันดับที่เท่าไหร่ในหน้าค้นหาทาง Google แนะนำให้เลือกใช้ Search Impression Absolute Top และ Top แทน ซึ่งทาง Digi Era ได้อธิบายเอาไว้แล้วในบทความ Impression Share คืออะไร

search top impressions

ลาก่อน Accelerated delivery

สำหรับการลงโฆษณาบน Google ถ้าต้องการที่จะเพิ่มยอดการใช้จ่ายให้มากขึ้น ช่องทางหนึ่งที่จะทำได้เลยก็คือการเปลี่ยนจาก Standard ไปเป็น Accelerated เพื่อให้ระบบ Machine Learning ได้เข้าใจว่าเราต้องการที่จะใช้เงินทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเหมาะสมอย่างมากสำหรับแคมเปญใดๆ ก็ตามที่มั่นใจว่าประสิทธิภาพที่ดี อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง Google ได้ยกเลิกที่จะให้ Campaign ประเภท Search / Shopping Ads หรือ แคมเปญที่ใช้ Shared Budget ไม่สามารถเซ็ตเป็น Accelerated ได้อีกต่อไป แต่ยังคงสามารถใช้ได้สำหรับแคมเปญประเภท Google Display และ Youtube Ads

Phrase / Broad Match Modifier / Exact ถูกทำให้กว้างขึ้น

ปีนี้ Google ได้ปรับให้ Broad Match Modifier, Phrase Match และ Exact Match สามารถที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมากยิ่งขึ้นด้วยรูปแบบการนำเสนอไปกับคีย์เวิร์ดที่มีความหมายเหมือนๆ กัน แม้ว่าคำๆ นั้นจะไม่ใช่คำที่เราต้องการจะตั้งเป็นกลุ่มเป้าหมายก็ตามแต่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วที่มักจะถูกนำมาใช้เป็นกลุ่มแรกๆ เลยก็คือ เหล่าคำผิดทั้งหลาย หรือคำที่มีความหมายเหมือนกันแต่ดันเขียนไม่เหมือนกัน เป็นต้น เราอาจจะต้องเสียเวลาในจัดการ Negative Keywords กันสักเล็กน้อยเพื่อที่จะทำให้ไม่ต้องกินเงินค่าคลิกมากจนเกินควร

เราสามารถที่จะ Target Audience ได้ใน Search

เราทุกคนต่างเข้าใจกันว่าแคมเปญของ Google SEM จะสามารถตั้งเป้าหมายได้เป็นเพียงแค่การใช้ Keyword เพียงเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง Google ได้ประกาศว่าเราสามารถที่จะเพิ่ม Target audience อย่าง Affinity หรือ Seasonal Segment in-market audience เข้ามาได้ด้วย โดยมันจะทำให้คีย์เวิร์ดของเรานั้นจะสามารถ target กลุ่มเป้าหมายที่สามารถเจาะจงได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครขายสินค้าประเภทประกันภัยรถยนต์แล้วใช้ Keyword ประมาณว่า “ประกันรถ”, “ประกันรถยนต์” ก็อาจจะเจาะกลุ่มให้ลึกลงไปอีกด้วยใส่ Target Audience ในกลุ่มที่มีความสนใจเกี่ยวกับ “Insurance” หรือ “Financial” เป็นต้น

รวมทุกการอัพเดตของGoogleAdsในปี20193

Google Audience Expansion Tools

สำหรับใครที่รัน Google Display Campaign คงจะเห็นเครื่องมืออันนี้กันมาแล้ว ซึ่ง Google ได้ประกาศมาตั้งแต่งาน Google Marketing Live ปี 2019 โดยมีความมั่นใจว่าจะทำให้คุณสามารถที่จะ Target Audience ที่ตรงกัน และมีคุณภาพมากกว่าเดิม โดยถูกนำมาเทียบกับ Facebook Lookalike Audience แต่อันที่จริงแล้วเมื่อได้ลองใช้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่ว่า ก็อย่างที่รู้กันว่า Google Display หรือ GDN นั้นมักจะไม่ค่อยที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้าเราต้องการที่จะเพิ่มจำนวนคนซื้อสินค้า หรือลีด สักเท่าไหร่นัก โดยส่วนมากเรามักจะใช้เพื่อเป็นแค่เครื่องมือช่วยสร้างแบรนด์ หรือหาคนเข้าเว็บแต่เพียงเท่านั้น

สามารถเลือก Conversions ในแต่ละแคมเปญได้อย่างอิสระ

ในทุกแคมเปญของ Google Ads ถ้าอยากจะวัดผลว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ เราจำเป็นที่จะ ต้องติดตั้ง Conversions เพื่อที่จะทำให้คุณได้รู้ว่าเมื่อมีคนคลิกแอดเข้ามาแล้ว เขาได้เลือกที่จะซื้อสินค้าหรือยินดีที่จะให้รายชื่อคุณหรือไม่ (leads) และถ้าเว็บไซต์ของคุณมีจำนวน Conversion Actions ที่ค่อนข้างเยอะ อาทิเช่น หารายชื่อคนมาลงทะเบียน / คลิกเพื่อแอดไลน์ หรืออื่นๆ ถ้าเป็นของเดิม เราจะไม่สามารถที่จะกำหนดได้เลยว่าให้แต่ละแคมเปญเน้นไปที่คอนเวอชั่นชนิดไหน หารายชื่อ หรือแอดไลน์

แต่ในงาน Google Marketing Live ในปี 2019 ได้ประกาศว่าเราสามารถที่จะกำหนด Campaign Level Conversions ได้ ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญ A มีจุดมุ่งเพื่อที่จะหาคนมาลงทะเบียนเพื่อขอทราบราคาประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ แต่ในแอคเค้าท์ของคุณมี 2 conversions ให้เลือกใช้ 1 คนที่ลงทะเบียนเพื่อขอทราบราคาออนไลน์ 2 คนที่ตัดสินใจซื้อออนไลน์เมื่อได้เห็นราคาแล้ว ด้วยรูปแบบใหม่คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้แคมเปญนี้เน้นไปที่ Conversion แบบไหน

ถ้าเลือกเป็นข้อ 2 หรือคนที่ตัดสินใจซื้อเมื่อทราบราคาแล้ว ทางระบบ Machine Learning ของ Google ก็จะจัดการเรียนรู้พฤติกรรม แล้วทำการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการจะซื้อออนไลน์แทนที่จะหาคนที่เพียงแค่มาลงทะเบียนเพื่อขอทราบแต่ราคาเพียงเท่านั้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก Function หนึ่งให้ได้เลือกใช้มันเรียกว่า Conversion Actions Set อันนี้จะมีประโยชน์สำหรับ Conversion Action เดียวกันแต่คนละแพลตฟอร์ม

ยกตัวอย่างเช่น เปิดร้านขายออนไลน์และได้ Tracking Transactions ผ่านเว็บด้วย Google Analytics และ Firebase หรือ Third-Party อื่นๆ สำหรับการ Transactions ที่เกิดขึ้นในมือถือ ถ้าเป็นของเดิม Google จะตีค่าว่าเป็น 2 Actions ด้วยกัน แต่การอัพเดตในครั้งนี้เราสามารถตั้งค่าให้สอง Actions นี้รวมกันได้แล้วทาง Google จะใช้ Machine Learning ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งสองในคราวเดียว

Bumper Ads Creator

สำหรับการโฆษณาบน Youtube มักจะนิยมกันที่ 15 – 30 วิ และมักจะไม่ค่อยรันโฆษณาที่มีระยะเวลาเพียงแค่ 6 วินาทีเท่าไหร่นัก เพราะอาจจะเป็นเพราะด้วยระยะเวลาที่สั้นทำให้การตัดวิดีโอจึงเป็นไปได้ยากที่จะทำไงให้มันจบลงได้ทุกอย่างในระยะเวลาที่ตดยังไม่ทันเหม็น และในเมื่อมันตัดยากตัดเย็นทาง Google เลยได้คิดค้น Machine Learning ขึ้นมาเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ Bumper Ads ของคุณนั้นเสร็จได้ใน 6 วินาที มันเรียกว่า Bumper Machine

อย่างไรก็ตามสำหรับ Bumper Machine ทางแอคเค้าท์ต่างๆ ของ Digi Era ยังไม่เห็นฟังก์ชั่นนี้ อาจจะใช้ได้ในบางประเทศเท่านั้น ถ้าในประเทศไทยเมื่อไหร่เดี๋ยวจะมาทดลองใช้กัน Google Thailand รีบๆ เด้อ

VDO ใน Responsive Display ads

Responsive Display Ads เข้ามาทำให้ชีวิตของการทำ Banner Ads นั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะแต่ก่อนอาจจะต้องใช้มากกว่า 10 – 20 รูปเพื่อให้เหมาะสมกับหน้าจอไซส์ต่างๆ และถ้าทำมาไซส์เดียวก็อาจจะไปได้ไม่ทั้งหมด แต่ถ้าเราได้เลือกใช้ Responsive Display Ads เราจะใช้ภาพเพียงแค่ 2 ขนาดเท่านั้นคือ 1,200 x 628 และ 1,200 x 1,200 โดยจะต้องมีภาพแบนเนอร์ และโลโก้

เมื่อเราได้อัพโหลดขึ้นไปทางระบบของ Google ก็จะนับภาพสองขนาดนี้ไปปรับให้มีความเหมาะสมของแต่ละหน้าจอเอง โดยในระบบสามารถที่จะอัพโหลดได้มากถึง 15 แบบด้วยกันยิ่งมีมากขึ้นก็ยิ่งจะทำให้มันมีความน่าสนใจมากกว่าเดิม และในปีนี้ Google ได้อัพเดตสามารถที่จะทำให้คุณใส่ VDO เข้าไปได้อีกด้วย

สร้าง Custom Audience ด้วยตัวคุณเอง

Custom Audience ที่มีใน Google Ads ไม่เหมือนกับ Custom Audience ที่สร้างมาจาก Pixel ของ Facebook แต่อย่างใด และมันไม่ใช่การทำ Re-Marketing หากแต่ว่าทาง Google ใช้เรียกชื่อเครื่องมือย่อยๆ สองอันเข้าด้วยกันซึ่งมันก็คือ Custom Affinity และ Custom Intent ทั้งสองมีหลักในการใช้งานที่แต่กต่างกัน

Custom Affinity : เป็นตัวช่วยในการสร้าง Audience ง่ายมากกว่าเดิมด้วยการที่จะให้โอกาสกับเจ้าของแคมเปญได้สร้างมาจากเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของตัวเอง คู่แข่ง หรือเว็บไซต์ที่เราคิดว่าน่าจะตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เหนือไปกว่านั้นมันยังสามารสร้างมาได้จาก Application ต่างๆ ที่ถูกลิสต์ไว้ใน Play Store ยังไม่หมดมันสามารถที่จะเจาะกลุ่มลงไปรายละเอียดได้ถึงสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย และการใช้รูปแบบของการเจาะแบบง่ายๆ ด้วยการใช้ความสนใจที่เราคิดว่าคนที่อยู่ในกลุ่มที่เราต้องการมักจะอยู่ในความสนใจเหล่านั้น

Custom Intent : ในระบบจะแยกย่อยออกเป็น 2 แบบด้วยกันได้ประกอบไปด้วยฝั่งที่เป็น In-Market และ Search Keywords ความแตกต่างนั้นอยู่ที่แชแนลที่เราจะใช้สำหรับ In-Market จะใช้ได้เฉพาะแคมเปญที่เป็น GDN (Display Network) เพียงเท่านั้น หากตแต่ว่าถ้าเป็น Search Keywords เราจะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายบนเครือข่ายค้นหาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 อย่าง Youtube ได้ โดยหลักในการสร้าง Audience ขึ้นมานั้นคือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดนั่นเอง โดยทางระบบจะใช้ระบบ Automate มาให้เมื่อเราต้องการที่จะสร้าง หรือการเลือกใช้แบบ Custom ที่เราต้องใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปเอง เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะใช้แบบไหน

Google Discovery Ads

อีกหนึ่งแชนแนลที่ทาง Google เพิ่งได้เปิดให้ได้ทดลองใช้งานกันคือการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อ Google Discovery, Youtube Homepage New Feed และ Gmail Promotions Ads ซึ่งคุณสามารถที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายเหมือนกับการใช้งาน Display Network หรือ Youtube รวมไปจนถึงการใช้ Re-Marketing เป็นต้นนอกจากนั้นการสร้างแบนเนอร์ใน Google Discovery สามารถสร้างได้เป็นสองแบบก็คือ Responsive Display Ads และ Carousel ads ส่วนในเรื่องการ Bidding นั้นทาง Google จะใช้ Machine Learning ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปจนถึงการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เยอะขึ้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ระบบนี้ยังเป็น Beta Version จะใช้ได้เฉพาะบางแอคเค้าท์เท่านั้น

Leads Ads Extension

อันสุดท้ายที่เพิ่ง Launch ขึ้นมาไม่นานเมื่อ Google ให้คุณสามารถเก็บรายละเอียดของลูกค้าอย่างเช่น รายชื่อ/เบอร์โทร ผ่านการใช้ Leads Ads Extension โดยที่ไม่ต้องสร้างแลนดิ้งเพจให้เสียเวลา อย่างไรก็ตาม Leads Ad ยังคงเป็นเพียงแค่ส่วนขยายของ Text Ads เดิม ดังนั้นผลที่ตามมาอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของเราเพราะทางระบบ Google มักจะโชว์ก็ต่อเมื่อ Extension นั้นๆ มีประสิทธิภาพที่ดี ขึ้นก่อนเสมอทำให้โอกาสที่จะเห็นส่วนขยายนี้ต้องใช้เวลา หรือบางครั้ง Google อาจจะไม่โชว์อันไหนเลยก็ได้ ถ้าให้ดีอาจจะต้องรอดูว่าในอนาคตจะเปลี่ยนจากส่วนขยาย มาเป็นรูปแบบของ Text Ads ได้หรือไม่ โดยไม่ต้องส่งคนเข้าแลนดิ้งเพจอีกต่อไป

ในปีที่ผ่านมา Google Ads ได้มีการอัพเดตของเล่นใหม่ๆ มาให้ได้ทดลองใช้กันค่อนข้างมาก และลบบางสิ่งบางอย่างออกไปเมื่อใช้มานาน เป็นที่น่าสนใจว่าในปีนี้ (2020) ในงาน Google Marketing Live หรือ Google i/o จะมีอะไรอัพเดตใหม่ๆ มาให้เหล่า Paid Search ฝั่ง Google ได้ลองใช้กันบ้าง

credit by

https://www.wordstream.com/blog/ws/2019/12/09/biggest-google-ads-updates

https://www.wordstream.com/blog/ws/2019/05/14/google-marketing-live

0 comment
Apiwat Chaleamjit (X)

เดินสายอยู่บนเส้นทาง Digital Marketing มานานกว่า 8 ปี โดยได้ดูแลแคมเปญให้กับธุรกิจขนาดเล็ก SME ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่เป็น Coporate โดยมีความถนัดกับทุกด้านตั้งแต่ ธุรกิจด้านการเงินทุกชนิด, การประกันภัย, การศึกษา, อีคอมเมิร์ช และอื่นๆ อีกมากมาย โดยจุดมุ่งหมายเดียวในการทำแคมเปญของผม มักจะเน้นที่เพิ่มยอดขาย เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์

previous post
ลองมาติดตั้ง Facebook Chat ด้วย Tag Manager กันดีกว่า
next post
Ad Extension คืออะไร และมันเพิ่ม CTR ให้กับแคมเปญคุณได้อย่างไร

Related Posts

Google Merchant Center คืออะไร ทำไมถึงใช้กับ Shopping Ads

February 12, 2021

Google Shopping Ads คืออะไร พร้อมสอนวิธีการสร้างแอคเค้าท์

December 30, 2020

Search Term Reports ใน Google Ads คืออะไร?

October 23, 2020

Dynamic Search Ads ใน SEM คืออะไร?

July 19, 2020

ทำ Google Adwords ด้วยตัวเองยังไงให้คุ้มค่า

May 6, 2020

Ad Extension คืออะไร และมันเพิ่ม CTR ให้กับแคมเปญคุณได้อย่างไร

April 27, 2020

Leave a Comment Cancel Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

บทความล่าสุด ฝากให้อ่าน

  • Google Merchant Center คืออะไร ทำไมถึงใช้กับ Shopping Ads

    February 12, 2021
  • FAQ Schema คืออะไร ติดตั้งอย่างไรด้วย Google Tag Manager

    January 22, 2021
  • สอนใช้งาน Google Tag Manager Preview Mode เวอร์ชั่นใหม่

    January 17, 2021
  • Google Shopping Ads คืออะไร พร้อมสอนวิธีการสร้างแอคเค้าท์

    December 30, 2020
  • สอนตั้งค่า Click Event Tracking ใน Google Analytics 4

    December 18, 2020

@2020 - All Right Reserved.

Digi Era ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
ดูรายละเอียดยอมรับ
Manage consent

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.
Necessary
Always Enabled

Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.

SAVE & ACCEPT